ซ่อม vs ซื้อใหม่? คำถามยอดฮิต เมื่อเครื่องมือแพทย์ความงามมีปัญหา

ซ่อม vs ซื้อใหม่? คำถามยอดฮิต เมื่อเครื่องมือแพทย์ความงามมีปัญหา

ธุรกิจคลินิกเสริมความงามในไทยเติบโตรวดเร็วอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ตลาดเครื่องมือแพทย์ด้านความงามในปัจจุบันมีมูลค่าสูง ซึ่งหมายถึงการลงทุนซื้อเครื่องมือราคาแพง เช่น เครื่องเลเซอร์ IPL HIFU หรือ RF ย่อมเป็นภาระค่าใช้จ่ายหลักของคลินิก เมื่ออุปกรณ์เหล่านี้เกิดขัดข้องหรือเสื่อมสภาพ เจ้าของคลินิกจึงต้องเผชิญกับคำถามสำคัญว่า การใช้บริการซ่อมแซมเครื่อง หรือซื้อเครื่องใหม่ อันไหนจะคุ้มค่ากว่ากัน ซึ่งการตัดสินใจอย่างใดอย่างหนึ่ง ต้องพิจารณาปัจจัยหลายด้าน ทั้งต้นทุน รายได้จากการให้บริการ และแผนธุรกิจในระยะยาว บทความนี้จะพามาวิเคราะห์ทุกแง่มุมของการตัดสินใจ เพื่อช่วยเจ้าของคลินิกประเมินทางเลือกอย่างครบถ้วน

Table of Contents

ประเมินสภาพอุปกรณ์และต้นทุนการซ่อม เครื่องมือแพทย์ความงาม

ก่อนจะตัดสินใจซ่อมหรือทิ้งเครื่องมือเก่า สิ่งแรกที่ต้องทำคือ ประเมินสภาพ และอายุการใช้งานของอุปกรณ์จากประวัติการใช้งาน ตรวจสอบว่ามีชั่วโมงการทำงานสะสมมากเพียงใด จนถึงระดับความสึกหรอของชิ้นส่วนสำคัญๆ การทราบข้อมูลเหล่านี้ช่วยให้รู้ว่าเครื่องเดิมยังมีศักยภาพใช้งานต่อได้หรือใกล้สิ้นอายุใช้งานเต็มที นอกจากนี้ควรพิจารณาค่าใช้จ่ายซ่อมแซมโดยรวม ทั้งค่าอะไหล่และค่าบริการซ่อม รวมถึงระยะเวลาหยุดใช้งาน (Downtime) ที่อาจเสียโอกาสรับรายได้ สำหรับอุปกรณ์บางรุ่นที่เก่าเกินกว่าผู้ผลิตจะสนับสนุนอีกต่อไป หรือชิ้นส่วนสำคัญขาดแคลน การเปลี่ยนใหม่อาจเป็นทางเลือกที่จำเป็น

เครื่องมือแพทย์ความงาม
ซ่อมเครื่องมือแพทย์ความงาม
ซ่อมเครื่องมือแพทย์ความงาม
เครื่องมือแพทย์ความงาม

เปรียบเทียบต้นทุนการซ่อมกับการซื้อเครื่องมือแพทย์ความงามใหม่

เมื่อประเมินสภาพเครื่องแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการเปรียบเทียบต้นทุนระหว่างการซ่อมกับการซื้อใหม่อย่างชัดเจน

  • ต้นทุนซื้อเครื่องใหม่: การลงทุนซื้อเครื่องใหม่คือจ่ายครั้งเดียว แต่สูงมาก แต่แลกกับเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด พร้อมประกันอุปกรณ์ที่ยาวนาน
  • ต้นทุนซ่อมบำรุง: กรณีเครื่องเสียฉุกเฉินหรือชิ้นส่วนสำคัญต้องเปลี่ยน อาจเสียค่าใช้จ่ายจำนวนหนึ่ง  นอกจากนี้ หากซ่อมบ่อยๆ ก็ต้องคำนวณรวมค่าบริการซ้ำๆ และชั่วโมงการทำงานที่เสียไปด้วย
  • ต้นทุนรวมระยะยาว: หากอุปกรณ์ยังใช้ได้ดี และการซ่อมไม่บ่อยนัก ต้นทุนรวมการซ่อมบำรุงระยะยาวอาจต่ำกว่าการซื้อใหม่มา แต่หากเครื่องเก่ามีโอกาสเสียหายซ้ำสูง หรือวัสดุที่ต้องเปลี่ยนบ่อย ๆ ยอดค่าใช้จ่ายสะสมอาจใกล้เคียงค่าซื้อใหม่ เมื่อเทียบกับราคาซื้อใหม่แล้ว หากซ่อมบำรุงเกินประมาณ 50–60% ของราคาขายใหม่ ก็อาจเป็นการดีกว่าที่จะลงทุนซื้ออุปกรณ์ใหม่
  • ทางเลือกเครื่องมือมือสอง: สำหรับคลินิกที่ต้องการประหยัด อาจพิจารณาผู้จำหน่ายเครื่องมือความงามมือสองคุณภาพสูงซึ่งผ่านการตรวจสอบ ซึ่งบางบริษัทจะช่วยลดต้นทุนได้ประมาณ 60–80% จากราคาขายปกติ การซื้อเครื่องมือมือสองพร้อมบริการรับรองคุณภาพจึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง แต่ควรตรวจสอบสภาพให้มั่นใจก่อน

การเปรียบเทียบต้นทุนข้างต้นทำให้เห็นว่า ถ้าอุปกรณ์ยังมีอายุการใช้งานเหลือเยอะ และซ่อมบำรุงในกรณีเสียอุปกรณ์หลักไม่บ่อย การซ่อมแซมจะใช้เงินน้อยกว่าซื้อใหม่อย่างมาก แต่หากเครื่องเก่าเสียบ่อย ค่าอะไหล่แพง หรือจำเป็นต้องมีเทคโนโลยีใหม่เพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขัน ก็อาจถึงเวลาที่ต้องพิจารณาซื้อเครื่องใหม่

ข้อดี ข้อเสีย ของการซ่อมหรือซื้อเครื่องมือแพทย์ความงามใหม่

ข้อดีของการซ่อม: ประหยัดค่าใช้จ่ายได้มาก โดยข้อมูลจากการวิเคราะห์อุตสาหกรรมระบุว่า การซ่อมชิ้นส่วนเครื่องมืออุตสาหกรรมทั่วไปสามารถประหยัดได้สูงถึงร้อยละ 50 ของราคาซื้อใหม่ ซึ่งย่อมคุ้มกว่าการลงทุนซื้อเครื่องใหม่ทุกครั้ง การซ่อมยังช่วยลดขยะอิเล็กทรอนิกส์และภาระการผลิตใหม่ ทำให้เป็นตัวเลือกที่ยั่งยืนกว่า อีกทั้งอาจลดช่วงเวลาหยุดให้บริการ เพราะไม่ต้องซื้อของใหม่รอผลิตและขนส่ง

ข้อเสียของการซ่อม: หากเครื่องมือมีอายุการใช้งานสูง อาจมีความเสี่ยงที่จะเสื่อมสภาพและต้องซ่อมหลายครั้ง จนอาจมีค่าใช้จ่ายซ้ำซ้อน และการซ่อมอาจไม่ได้นำมาซึ่งเทคโนโลยีหรือฟีเจอร์ใหม่ ๆ ทำให้คลินิกพลาดโอกาสในการใช้เครื่องมือที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ การซ่อมที่ไม่ได้มาตรฐานอาจไม่ครอบคลุมประกัน จึงต้องหันไปใช้บริการช่างภายนอกที่ค่าแรงสูง

ข้อดีของการซื้อใหม่: เครื่องมือแพทย์รุ่นใหม่มักมีประสิทธิภาพสูงกว่า มาพร้อมเทคโนโลยีล่าสุด และมีการรับประกันจากผู้ผลิตยาวนานกว่า นอกจากนี้ เครื่องใหม่มักถูกออกแบบให้สะดวกต่อการใช้งานมากขึ้น ลดเวลาบำรุงรักษา และช่วยสร้างภาพลักษณ์ทันสมัยให้คลินิกด้วย

ข้อเสียของการซื้อใหม่: ต้นทุนสูงมาก อาจทำให้คลินิกติดขัดเรื่องกระแสเงินสด ในบางกรณีคลินิกต้องเสียค่าอบรมพนักงานเพิ่มเติมหรือปรับปรุงพื้นที่การติดตั้งเครื่องมือใหม่ ซึ่งทั้งสองปัจจัยนี้มีผลกระทบต่อต้นทุนและเวลาโดยรวม นอกจากนี้ คลินิกอาจเจอกับปัญหาด้านการต่อรองราคากับผู้ผลิต หรือการรอคิวรับเครื่องมือใหม่ซึ่งอาจล่าช้า

ปัจจัยที่คลินิกต้องพิจารณาก่อนตัดสินใจ ซ่อมหรือซื้อ เครื่องมือแพทย์ความงาม

สภาพและอายุอุปกรณ์: ตรวจสอบชั่วโมงการทำงานสะสม ความสึกหรอของชิ้นส่วนหลัก และประวัติซ่อมที่ผ่านมา หากอุปกรณ์ใกล้หมดอายุหรือเสียบ่อย การซื้อใหม่อาจคุ้มค่ากว่า

ต้นทุนการซ่อม vs ราคาซื้อเครื่องใหม่: พิจารณาสัดส่วนค่าใช้จ่าย หากการซ่อมบำรุงครั้งต่อไปมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าครึ่งหนึ่งของราคาซื้อเครื่องใหม่ ก็อาจควรซื้อใหม่แทน ควรคำนวณ ROI ของแต่ละทางเลือกร่วมด้วย

ผลกระทบจากการหยุดให้บริการ: เครื่องมือที่ใช้งานประจำ ถ้าถูกส่งซ่อมอาจต้องหยุดให้บริการชั่วคราว ควรประเมินว่าคลินิกรับภาระนี้ได้มากน้อยแค่ไหน

ความทันสมัยของเทคโนโลยี: พิจารณาว่าเครื่องมือเดิมสามารถให้ผลลัพธ์ที่ลูกค้าต้องการได้ครบถ้วนหรือไม่ หากวงการมีเทคโนโลยีใหม่ ๆ อาจทำให้บริการเดิมด้อยค่า ควรพิจารณาซื้อเครื่องใหม่เพื่อแข่งขันได้

บริการหลังการขายและอะไหล่: ตรวจสอบว่าผู้ผลิตหรือผู้จำหน่ายมีบริการหลังการขายที่ดีแค่ไหน มีศูนย์ซ่อมรองรับ และอะไหล่พร้อมเปลี่ยนหรือไม่ ซึ่งส่งผลต่อความสะดวกในการซ่อมและค่าใช้จ่ายในอนาค

ข้อจำกัดด้านงบประมาณและแผนธุรกิจ: หากคลินิกมีข้อจำกัดด้านงบประมาณหรือภาระทางการเงินสูง การเลือกซ่อมอาจช่วยรักษาสภาพคล่องได้ดีกว่า แต่หากแผนงานระยะยาวเน้นการขยายบริการ เครื่องมือใหม่อาจเป็นการลงทุนที่เหมาะสมกว่า

บริการหลังการขายและการรับประกันเครื่องมือแพทย์ความงาม

สัญญาประกันมาตรฐาน: เครื่องมือแพทย์ความงามหลายๆ รุ่น จะมีการรับประกันเครื่องอยู่ที่ 1 ปี ดังนั้นควรตรวจสอบเงื่อนไขว่าครอบคลุมค่าแรงและอะไหล่ชิ้นใดบ้าง

ผลประโยชน์ด้านการบริการหลังการขาย: ผู้จัดจำหน่ายเครื่องมือแพทย์ความงามหลายราย มักให้บริการฝึกอบรมและประสานงานหลังการขาย พร้อมการรับประกันหลังการซ่อมตั้งแต่ 6 เดือนถึง 1 ปี จึงควรเลือกเครื่องมือจากผู้จำหน่ายที่เชื่อถือได้ และมีศูนย์บริการในประเทศรองรับ

สรุป

การตัดสินใจ “ ซ่อม vs ซื้อใหม่ ” ควรคำนึงถึงปัจจัยต่าง ๆ อย่างรอบด้าน ทั้งสภาพเครื่อง คุณภาพการซ่อม ค่าใช้จ่ายรวม และแผนธุรกิจของคลินิก การซ่อมแซมเป็นทางเลือกที่ คุ้มค่าทางธุรกิจ ในหลายกรณี เพราะช่วยลดต้นทุนและคืนทุนได้เร็วกว่า อย่างไรก็ตาม หากเครื่องมือเก่าเกินกว่าจะซ่อม หรือจำเป็นต้องปรับเทคโนโลยีใหม่ การซื้อเครื่องใหม่พร้อมประกันและบริการหลังการขายที่ดี ก็ถือว่าคุ้มค่าในระยะยาวเช่นกัน

บริการซ่อมเครื่องมือแพทย์ความงาม
เรื่องราวที่น่าสนใจเพิ่มเติม