เครื่อง HIFU คืออะไร และทำงานอย่างไร
เครื่อง HIFU (High Intensity Focused Ultrasound) คืออุปกรณ์เสริมความงามที่ใช้เทคโนโลยีคลื่นความถี่สูง ส่งผ่านลงไปยังใต้ผิวหนังอย่างเฉพาะจุด โดยเครื่องจะเปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าให้กลายเป็นคลื่นอัลตราซาวด์ผ่านทางหัวเครื่อง (Transducer) ซึ่งถือเป็นหัวใจหลักของระบบ
หลักการทำงานของ HIFU
เครื่อง HIFU จะอาศัยการปล่อยคลื่นเสียงอัลตราซาวด์ความเข้มสูงลงไปยังชั้นผิวหนังในระดับความลึกที่ต้องการ โดยคลื่นเสียงจะถูกโฟกัสให้มาบรรจบกัน ณ จุดโฟกัสเล็กๆ ในชั้นเนื้อเยื่อ ทำให้เกิด จุดความร้อนขนาดเล็ก (Thermal Coagulation Points) ในบริเวณนั้น อุณหภูมิที่จุดโฟกัสอาจสูงถึงประมาณ 55–70°C ซึ่งเพียงพอให้เนื้อเยื่อเกิดความร้อนจนเซลล์ถูกทำลายแบบจำกัดวง ส่งผลให้ร่างกายจะเกิดการกระตุ้นคอลลาเจน และสร้างเนื้อเยื่อใหม่มาแทนที่ส่วนที่ถูกทำลายทำให้ผิวที่หย่อนคล้อยกระชับขึ้น และริ้วรอยลดเลือนลง
ระบบไฟ พลังงาน และหัว HIFU ที่มีผลต่อการเปิดเครื่อง
เครื่อง HIFU เป็นอุปกรณ์ที่ต้องการระบบไฟฟ้าที่มีเสถียรภาพและตรงตามสเปคที่กำหนด การต่อเครื่องเข้ากับแหล่งจ่ายไฟที่แรงดันไม่ตรงตามที่เครื่องระบุ (เช่น ต่อผิดระหว่างระบบ 110V และ 220V) อาจทำให้เครื่องทำงานไม่ถูกต้องหรือถึงขั้นทำให้อุปกรณ์ไหม้เสียหายได้ ดังนั้นควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าใช้แรงดันไฟฟ้าตามที่เครื่องกำหนดเสมอ นอกจากนี้ ความเสถียรของกระแสไฟ ก็มีความสำคัญเช่นกัน ในบางคลินิกที่ไฟตกไฟเกินบ่อย อาจต้องพิจารณาใช้เครื่องควบคุมแรงดันไฟฟ้า (Stabilizer) ขนาดประมาณ 3000 วัตต์เพื่อป้องกันความผันผวนของไฟฟ้าจากการทำให้เครื่องรวนหรือเสียหาย
หัว HIFU (Cartridge หรือ Transducer) เป็นส่วนที่เปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าเป็นคลื่นเสียงและยิงลงสู่ผิว ดังนั้นหัวนี้ต้องเชื่อมต่อกับตัวเครื่องอย่างแน่นหนาและอยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน หากหัวหลวมหรือเสียบไม่แน่น เครื่องอาจตรวจไม่พบหัวและไม่ยอมทำงาน
สาเหตุที่เครื่อง HIFU เปิดไม่ติด มีอะไรบ้าง
1. ระบบไฟฟ้าหรือฟิวส์ขัดข้อง
- ฟิวส์ขาด (Fuse): ฟิวส์ทำหน้าที่ป้องกันวงจรไฟเกินในเครื่อง หากเกิดไฟกระชากหรือไฟฟ้าลัดวงจร ฟิวส์อาจขาดทำให้วงจรไฟถูกตัด เครื่องจะไม่ติดเลย กรณีนี้ให้ลองตรวจสอบฟิวส์หลักของเครื่อง ซึ่งมักอยู่ในช่องใกล้กับเต้าเสียบสายไฟด้านหลังเครื่อง (อาจมีฝาครอบเล็กๆ ที่เปิดออกเพื่อตรวจฟิวส์ได้)
- ไฟเกินหรือไฟตกจนระบบป้องกันทำงาน: ในบางรุ่นอาจมีวงจรป้องกันเมื่อแรงดันไฟฟ้าผิดปกติ ถ้าไฟที่จ่ายเข้ามาไม่นิ่งหรือเกินขอบเขต เครื่องอาจตัดการทำงานเพื่อป้องกันความเสียหาย กรณีนี้หลังไฟนิ่งแล้วอาจต้องกดปุ่มรีเซ็ตหรือปิดเปิดเครื่องใหม่อีกครั้ง
2. หน้าจอหรือบอร์ดควบคุมมีปัญหา
หากกดสวิตช์แล้วพบว่า ไฟสถานะบางจุดติด แต่หน้าจอไม่แสดงผลหรือเครื่องไม่บูทขึ้นมา เป็นไปได้ว่าวงจรอิเล็กทรอนิกส์ภายในหรือหน้าจอควบคุม (Control Board/Touchscreen) เกิดความเสียหาย สาเหตุนี้อาจเกิดจากแผงวงจรชำรุด, สายแพภายในหลวม, หรือตัวหน้าจอสัมผัสเสียเอง กรณีที่หน้าจอไม่ติดเลยและเครื่องไม่มีเสียงหรือปฏิกิริยาใดๆ หลังจากยืนยันว่าไฟเข้าปกติและฟิวส์ไม่ขาด นั่นหมายถึงอุปกรณ์ภายในอาจมีปัญหา
3. สายเชื่อมหัว HIFU หลวม หรือขั้วเสียบหลุด
เครื่อง HIFU จะแยกเป็นตัวเครื่องหลักและหัวยิง ที่เชื่อมต่อกันด้วยสายไฟ/สายสัญญาณ หากเครื่องเปิดติดแต่พลังงานไม่ออกหรือมีเสียงเตือนตลอดเวลา หนึ่งในสาเหตุที่พบบ่อยคือสายเชื่อมหัวหลวมหรือหัว HIFU ไม่ถูกติดตั้งอย่างถูกต้อง เครื่องบางรุ่นออกแบบให้ ถ้าหัวไม่ต่อหรือต่อไม่แน่น เครื่องจะไม่ยอมปล่อยพลังงานเพื่อป้องกันอันตราย ดังนั้นควรตรวจสอบขั้วต่อของสายหัว HIFU ที่ด้านหลัง/ด้านข้างเครื่องว่าหมุนล็อกแน่นดีหรือยัง ลองถอดแล้วเสียบใหม่ให้แน่นสนิทอีกครั้ง
4. ระบบป้องกันความร้อน (Thermal Protection) ทำงาน
เครื่อง HIFU สมัยใหม่มักติดตั้ง ระบบเซ็นเซอร์วัดความร้อนและวงจรป้องกันความร้อนเกิน เพื่อความปลอดภัยทั้งต่อคนไข้และตัวเครื่องเอง หากเครื่องทำงานจนเกิดความร้อนสะสมมากเกินไป ระบบป้องกันจะตัดการทำงานของเครื่องโดยอัตโนมัติชั่วคราว เครื่องจะปิดตัวหรือหยุดยิงเพื่อป้องกันความเสียหาย ไม่ให้ความร้อนเกินจนทำอันตรายทั้งผิวคนไข้และวงจรภายในเครื่อง
5. ใช้งานต่อเนื่องนานเกินไปจนระบบตัดไฟอัตโนมัติ
การใช้งานเครื่อง อย่างต่อเนื่องเป็นเวลานานเกินกำหนด สามารถนำไปสู่ปัญหาเครื่องดับหรือไม่ติดได้เช่นกัน ผู้ผลิตหลายรายมักระบุคำแนะนำเกี่ยวกับระยะเวลาการใช้งานต่อเนื่องสูงสุดของเครื่องไว้ เช่น ไม่ควรใช้งานเกิน 2 ชั่วโมงต่อเนื่อง โดยหลังจากนั้นควรปิดเครื่องและปล่อยให้พักอย่างน้อย 10-15 นาทีก่อนใช้งานต่อ เนื่องจากการเดินเครื่องนานเกินไปทำให้อุปกรณ์ภายในสะสมความร้อนอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าอาจไม่ถึงระดับที่เซ็นเซอร์ความร้อนตัดการทำงานทันที แต่ความร้อนสะสมนี้จะเร่งการสึกหรอของชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์และตัวหัว HIFU และอาจทำให้ วงจรป้องกันความร้อนค่อยๆ ลดกำลังหรือสั่งปิดเครื่องลงในที่สุด เพื่อป้องกันความเสียหายถาวร


สัญญาณเตือนก่อนเครื่อง HIFU เสีย
- เครื่องมีเสียงหรือกลิ่นผิดปกติขณะทำงาน: หากได้ยินเสียงหึ่งดังผิดปกติจากตัวเครื่อง พัดลมเสียงดังมากขึ้น หรือมีเสียงกระแทกกรอบแกรบภายใน แปลว่าอาจมีชิ้นส่วนภายในหลวม หรือพัดลมหรือปั๊มภายในเริ่มเสื่อมสภาพ นอกจากนี้ กลิ่นไหม้หรือกลิ่นสารเคมีร้อน ที่เล็ดออกมาจากเครื่องเป็นสัญญาณร้ายแรงว่ามีส่วนประกอบไฟฟ้าหรือแผงวงจรเกิดความร้อนสูงเกินหรือช็อต ควรหยุดใช้เครื่องทันทีหากได้กลิ่นไหม้
- หน้าจอแสดงผลติดๆ ดับๆ หรือขึ้น error บ่อยครั้ง: หากหน้าจอเริ่มมีอาการกระพริบ ดับเอง รีสตาร์ทเอง หรือแสดงรหัสข้อผิดพลาดถี่ๆ นั่นหมายถึงระบบควบคุมภายในเริ่มมีปัญหา เช่น แรงดันไฟไม่คงที่, ซอฟต์แวร์ติดขัด, หรือฮาร์ดแวร์เริ่มเสีย ควรบันทึกรหัส error (ถ้ามี) แล้วติดต่อผู้แทนจำหน่ายหรือทีมช่างเพื่อวิเคราะห์ปัญหา
- ประสิทธิภาพการยิงพลังงานลดลงหรือไม่สม่ำเสมอ: หากสังเกตว่าผลลัพธ์การรักษาของ HIFU ลดลง เช่น ยิงแล้วผู้ป่วยรู้สึกเจ็บน้อยกว่าปกติหรือผลการยกกระชับไม่ชัดเหมือนเดิม อาจบ่งชี้ว่าพลังงานที่เครื่องปล่อยออกมาไม่คงที่ซึ่งอาจเกิดจากหัว HIFU เริ่มเสื่อมหรือเครื่องต้องการการสอบเทียบ (Calibration) ใหม่
- เครื่องร้อนเร็วกว่าปกติหรือพักเครื่องบ่อย: หากพบว่าเครื่องทำงานเพียงไม่นานก็ร้อนจัดจนต้องพัก หรือระบบตัดการทำงานบ่อยขึ้นเรื่อยๆ นั่นหมายความว่าระบบระบายความร้อนอาจมีปัญหา (เช่น พัดลมเสื่อมหรือทางเดินอากาศอุดตัน) หรือมีชิ้นส่วนภายในเสื่อมที่ทำให้เกิดความร้อนเกิน ปัญหานี้หากละเลย เครื่องอาจเสียหายถาวรได้
ต้องการทีมช่าง Click!!
วิธีตรวจเช็กเครื่อง HIFU เบื้องต้น ก่อนเรียกทีมช่าง
- ตรวจสอบแหล่งจ่ายไฟและสายไฟ: ตรวจดูปลั๊กไฟว่าเสียบเข้ากับเต้าเสียบดีหรือไม่ และเต้าเสียบนั้นมีไฟหรือเปล่า (ลองเสียบอุปกรณ์อื่นทดสอบ) รวมถึงตรวจสายไฟของเครื่องว่ามีรอยขาด, หักงอ หรือไหม้หรือไม่ ถ้ามีควรหยุดใช้งานทันที นอกจากนี้ให้ตรวจสอบสวิตช์ไฟหลักของเครื่องว่าถูกเปิดอยู่ (อยู่ในตำแหน่ง “On”)
- ตรวจสอบฟิวส์: หากยังไม่มีไฟเข้าเครื่องเลย ให้เช็คฟิวส์ที่ช่องใกล้ปลั๊กไฟของเครื่อง (ถ้ามี) โดยถอดปลั๊กเครื่องออกก่อนแล้วจึงเปิดฝาช่องฟิวส์ขึ้นมาดูฟิวส์ข้างในว่าลวดขาดไหม หากฟิวส์ขาดให้เปลี่ยนฟิวส์ใหม่ขนาดเดียวกัน แล้วลองเสียบปลั๊กเปิดเครื่องอีกครัง (หมายเหตุ: ควรมีฟิวส์สำรองติดไว้ที่คลินิกเสมอ) แต่หากฟิวส์ไม่ขาดและไฟบ้านปกติ แสดงว่าปัญหาไม่ใช่ที่ไฟภายนอก
- ตรวจสอบหัวต่อและสายหัว HIFU: ต่อมาลองเปิดเครื่องดูว่าหน้าจอติดหรือไม่ ถ้าเครื่องติดไฟแต่ยิงไม่ออกหรือมีเสียงเตือน ให้หันไปตรวจสอบสายหัว HIFU ที่ต่อเข้ากับเครื่อง ถอดออกแล้วเสียบล็อกใหม่ให้แน่นสนิท ทั้งตรงขั้วต่อที่ตัวเครื่องและหัวมือจับ ตรวจดูสภาพสายว่ามีรอยหักหรือขาดภายในหรือไม่ หากมีหัวสำรองหรือหัวอื่นให้ลองสับเปลี่ยนทดสอบว่าหัวเดิมอาจเสียหรือไม่
- รีเซ็ตระบบโดยการปิด-เปิดเครื่อง: บางครั้งเครื่องอาจมีอาการค้างทางซอฟต์แวร์ชั่วคราว วิธีแก้คือ ปิดเครื่องและถอดปลั๊กออก รอสักประมาณ 30 วินาที – 1 นาที เพื่อให้กระแสไฟและประจุไฟฟ้าในวงจรหมด แล้วค่อยเสียบปลั๊กเปิดเครื่องใหม่อีกครั้ง (เทียบเท่าการรีบูตระบบ) ขั้นตอนนี้สามารถแก้ปัญหาเครื่องค้างหรือระบบไม่ตอบสนองได้ในหลายกรณี
- ตรวจสอบความร้อนและปล่อยให้เครื่องเย็นลง: หากก่อนหน้าที่เครื่องจะเปิดไม่ติดได้มีการใช้งานต่อเนื่องมานาน เครื่องอาจร้อนเกินจนระบบป้องกันตัดการทำงาน ให้ลองจับบริเวณตัวถังเครื่องว่าร้อนผิดปกติหรือไม่ ถ้าใช่ ให้ถอดปลั๊กและพักเครื่องไว้ประมาณ 10-15 นาทีจนเครื่องเย็นลง แล้วจึงลองเปิดใหม่อีกครั้ง
- อย่าพยายามแกะเครื่องเอง: หากทำตามขั้นต้นแล้วยังไม่สามารถทำให้เครื่องติดได้ อย่าเปิดฝาเครื่องหรือรื้อเครื่องเอง เพราะเครื่องความงามมีวงจรซับซ้อน การแกะเองอาจทำให้ปัญหาหนักขึ้นหรือหลุดประกันทันที ควรติดต่อทีมช่างผู้เชี่ยวชาญให้เข้ามาตรวจสอบ ซึ่งช่างจะมีเครื่องมือและอะไหล่พร้อมกว่าและการพยายามแกะเครื่องเอง อาจทำให้เสียประกันเครื่องได้
วิธีป้องกันไม่ให้เครื่อง HIFU เปิดไม่ติด
การดูแลและป้องกันไม่ให้เครื่อง HIFU เปิดไม่ติด สามารถทำได้โดยเริ่มจากการใช้งานเครื่องตามคำแนะนำของผู้ผลิต ไม่หักโหมเกินไป รวมถึงการจัดวางเครื่องในบริเวณที่ระบายอากาศได้ดี ไม่อับร้อนหรือชื้น และหมั่นทำความสะอาดช่องระบายอากาศให้ปราศจากฝุ่นเพื่อคงประสิทธิภาพของระบบระบายความร้อน
นอกจากนี้ควรใช้ไฟฟ้าที่เสถียร มีสายดิน และติดตั้งเครื่องควบคุมแรงดันไฟฟ้า (Stabilizer) เพื่อป้องกันไฟตกหรือไฟกระชากที่อาจทำให้ฟิวส์ขาด ควรกำหนดตารางตรวจเช็กเครื่องเป็นประจำโดยช่างผู้เชี่ยวชาญอย่างน้อยปีละหนึ่งครั้ง ตรวจสอบหัว HIFU สายไฟ และพัดลมระบายความร้อนให้อยู่ในสภาพดี

สรุป
ปัญหาเครื่อง HIFU เปิดไม่ติดอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ ตั้งแต่ระบบไฟฟ้า สายเชื่อมต่อ ไปจนถึงการใช้งานต่อเนื่องโดยไม่พักเครื่อง การตรวจเช็กเบื้องต้นอย่างถูกวิธีจะช่วยลดความเสียหายและยืดอายุการใช้งานได้ หากตรวจแล้วยังไม่สามารถเปิดได้ ควรส่งต่อให้ทีมช่างผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบ เพื่อป้องกันความเสียหายของระบบภายในในระยะยาว
ต้องการทีมช่าง Click!!