


ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับเครื่องสลายไขมัน
เครื่องสลายไขมันเป็นอุปกรณ์ความงามทางการแพทย์ที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงหลายประเภทในการกำจัดไขมันส่วนเกินโดยไม่ต้องผ่าตัด เช่น การใช้คลื่นเสียงความถี่สูง Ultrasonic Cavitation, การแช่แข็งไขมัน Cryolipolysis หรือ Fat Freezing, คลื่นวิทยุ Radio Frequency (RF) และคลื่นเสียงความเข้มข้นสูงแบบโฟกัส High-Intensity Focused Ultrasound (HIFU) ซึ่งเทคโนโลยีเหล่านี้ช่วยลดชั้นไขมันเฉพาะส่วนได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่ทำให้เกิดบาดแผลหรือเวลาพักฟื้น
เนื่องจากเครื่องสลายไขมันมีมูลค่าที่สูง และโครงสร้างการทำงานที่ซับซ้อน การใช้งานอย่างถูกวิธี และการบำรุงรักษาอุปกรณ์อย่างสม่ำเสมอจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง หากใช้งานผิดวิธีหรือขาดการดูแลรักษาที่เหมาะสม เครื่องอาจเกิดปัญหาขัดข้องหรือเสื่อมสภาพเร็วกว่าที่ควรจะเป็น เจ้าของคลินิกควรมีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับหลักการทำงานของเครื่องสลายไขมันและตระหนักถึงความสำคัญของการดูแลรักษาเครื่อง เพื่อที่จะป้องกันไม่ให้ปัญหาเกิดขึ้นตั้งแต่แรกเริ่ม และเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ต่าง ๆ ได้อย่างมั่นใจในกรณีที่เครื่องเกิดปัญหา



ปัญหาที่มักพบบ่อยในเครื่องสลายไขมัน
- หัวเครื่องไม่ทำงาน (Handpiece ไม่ทำงานหรือไม่มีพลังงานออก) – ปัญหานี้พบได้กับหัวเครื่องทุกประเภท ที่ไม่ปล่อยพลังงานออกมา สาเหตุอาจมาจากสายเคเบิลภายในหัวขาดหรือหลวม ทำให้กระแสไฟไม่ส่งถึงตัวหัวเครื่องอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ตัวกำเนิดพลังงาน (Transducer) อาจเสื่อมสภาพหรือหลุดตำแหน่ง ทำให้ช่วงความถี่และความเข้มข้นของพลังงานที่ปล่อยออกมาลดลง ในกรณีเครื่องที่มี Switch เท้าเหยียบหรือปุ่มกดเพื่อยิงพลังงาน หากระบบไฟติดปกติแต่กดแล้วเครื่องไม่ตอบสนอง ก็อาจเกิดจากสวิทช์หรือแป้นเหยียบชำรุดได้เช่นกัน
- วิธีแก้ไขเบื้องต้น : ตรวจสอบการเชื่อมต่อของหัวเครื่องและสายทุกจุดให้แน่นสนิท ไม่มีส่วนใดหลวม ตรวจดูสายสัญญาณภายนอกว่ามีรอยหักงอหรือชำรุดหรือไม่ หากพบสายชำรุดควรหยุดใช้งานและติดต่อช่างผู้ชำนาญเพื่อเปลี่ยนสายใหม่ ในกรณี HIFU ให้ตรวจสอบว่าตลับหัว HIFU หมดอายุการใช้งานหรือไม่ และลองเปลี่ยนตลับใหม่
- วิธีแก้ไขเบื้องต้น : ตรวจสอบการเชื่อมต่อของหัวเครื่องและสายทุกจุดให้แน่นสนิท ไม่มีส่วนใดหลวม ตรวจดูสายสัญญาณภายนอกว่ามีรอยหักงอหรือชำรุดหรือไม่ หากพบสายชำรุดควรหยุดใช้งานและติดต่อช่างผู้ชำนาญเพื่อเปลี่ยนสายใหม่ ในกรณี HIFU ให้ตรวจสอบว่าตลับหัว HIFU หมดอายุการใช้งานหรือไม่ และลองเปลี่ยนตลับใหม่
- หน้าจอค้างหรือระบบค้าง (Screen Freezing/System Hang) – เครื่องสลายไขมันรุ่นใหม่มักมีหน้าจอระบบสัมผัส และระบบคอมพิวเตอร์ควบคุม ซึ่งอาจเกิดอาการหน้าจอค้าง ไม่ตอบสนองต่อการสัมผัส หรือโปรแกรมหยุดทำงานได้ สาเหตุหนึ่งอาจเกิดจาก ซอฟต์แวร์หรือระบบควบคุมเกิดข้อผิดพลาด (Software out of control) รวมถึงมีสัญญาณรบกวนทางไฟฟ้าแรงสูงใกล้เครื่อง ทำให้ระบบทำงานผิดปกติ นอกจากนี้ความร้อนสะสมภายในตัวเครื่องหรือฝุ่นละอองอุดตันช่องระบายอากาศก็อาจทำให้ระบบค้างได้เช่นกัน
- วิธีแก้ไขเบื้องต้น : ปิดและเปิดเครื่องใหม่ (Reboot) เพื่อรีเซ็ตระบบ ตรวจสอบว่าไม่มีอุปกรณ์ไฟฟ้ากำลังสูงหรือแม่เหล็กไฟฟ้าอยู่ใกล้ๆ เครื่อง ที่จะก่อสัญญาณรบกวน หมั่นทำความสะอาดแผงกรองฝุ่น และพัดลมระบายอากาศของเครื่องเป็นประจำ เพื่อป้องกันความร้อนสะสมภายในเครื่อง หากเครื่องมีการอัปเดตซอฟต์แวร์จากผู้ผลิต ให้ดำเนินการอัปเดตตามกำหนดเพื่อแก้ไขบั๊กที่อาจเป็นสาเหตุของการค้าง ในกรณีที่ลองแก้ไขเบื้องต้นทั้งหมดแล้วหน้าจอยังค้างหรือระบบยังทำงานผิดปกติ อาจเป็นปัญหาที่แผงวงจรควบคุมภายใน ควรติดต่อศูนย์บริการหรือวิศวกรผู้ผลิตเพื่อวินิจฉัยและซ่อมแซม ซึ่งอาจรวมถึงการเปลี่ยนชุดควบคุมหลักของเครื่องตามความจำเป็น
- วิธีแก้ไขเบื้องต้น : ปิดและเปิดเครื่องใหม่ (Reboot) เพื่อรีเซ็ตระบบ ตรวจสอบว่าไม่มีอุปกรณ์ไฟฟ้ากำลังสูงหรือแม่เหล็กไฟฟ้าอยู่ใกล้ๆ เครื่อง ที่จะก่อสัญญาณรบกวน หมั่นทำความสะอาดแผงกรองฝุ่น และพัดลมระบายอากาศของเครื่องเป็นประจำ เพื่อป้องกันความร้อนสะสมภายในเครื่อง หากเครื่องมีการอัปเดตซอฟต์แวร์จากผู้ผลิต ให้ดำเนินการอัปเดตตามกำหนดเพื่อแก้ไขบั๊กที่อาจเป็นสาเหตุของการค้าง ในกรณีที่ลองแก้ไขเบื้องต้นทั้งหมดแล้วหน้าจอยังค้างหรือระบบยังทำงานผิดปกติ อาจเป็นปัญหาที่แผงวงจรควบคุมภายใน ควรติดต่อศูนย์บริการหรือวิศวกรผู้ผลิตเพื่อวินิจฉัยและซ่อมแซม ซึ่งอาจรวมถึงการเปลี่ยนชุดควบคุมหลักของเครื่องตามความจำเป็น
- ระบบทำความเย็นมีปัญหา (Cooling System Malfunction) – ปัญหานี้พบบ่อยในเครื่อง Cryolipolysis (เครื่องสลายไขมันด้วยความเย็น) ซึ่งต้องอาศัยระบบทำความเย็นอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วงที่ใช้งานเครื่องอาจพบว่า หัวดูดเย็นไม่พอ หรือระบบแจ้งเตือนข้อผิดพลาดด้านอุณหภูมิ ทำให้ต้องหยุดการรักษากะทันหัน สาเหตุอาจเกิดจากระดับน้ำหล่อเย็น/สารหล่อเย็นต่ำกว่าที่กำหนด หรือไส้กรองและท่อทางเดินน้ำมีการอุดตันจนการไหลเวียนความเย็นไม่ดี อีกทั้ง พัดลมหรือหม้อน้ำระบายความร้อนสกปรก มีฝุ่นจับมาก ก็ทำให้ประสิทธิภาพการทำความเย็นลดลง
- วิธีแก้ไขเบื้องต้น : ก่อนเปิดเครื่อง ตรวจสอบระดับน้ำหล่อเย็น ของระบบว่ามีปริมาณเพียงพอตามคู่มือกำหนดหรือไม่ และควรใช้น้ำกลั่นหรือน้ำปราศจากแร่ธาตุตามที่ผู้ผลิตแนะนำเสมอในการเติม หากพบว่าระดับน้ำต่ำกว่ากำหนด ให้เติมน้ำหล่อเย็นจนถึงระดับที่เหมาะสม ทำการตรวจสอบและทำความสะอาด ไส้กรองน้ำและปั๊มน้ำ ทุก 6 เดือนหรือบ่อยตามคำแนะนำผู้ผลิต เนื่องจากไส้กรองที่อุดตันจะจำกัดการไหลของน้ำและทำให้ระบบเย็นทำงานหนักเกินไป นอกจากนี้ควรดูดฝุ่นทำความสะอาดแผงระบายความร้อนและพัดลมเป็นประจำทุกสัปดาห์ เพื่อป้องกันฝุ่นสะสม
- วิธีแก้ไขเบื้องต้น : ก่อนเปิดเครื่อง ตรวจสอบระดับน้ำหล่อเย็น ของระบบว่ามีปริมาณเพียงพอตามคู่มือกำหนดหรือไม่ และควรใช้น้ำกลั่นหรือน้ำปราศจากแร่ธาตุตามที่ผู้ผลิตแนะนำเสมอในการเติม หากพบว่าระดับน้ำต่ำกว่ากำหนด ให้เติมน้ำหล่อเย็นจนถึงระดับที่เหมาะสม ทำการตรวจสอบและทำความสะอาด ไส้กรองน้ำและปั๊มน้ำ ทุก 6 เดือนหรือบ่อยตามคำแนะนำผู้ผลิต เนื่องจากไส้กรองที่อุดตันจะจำกัดการไหลของน้ำและทำให้ระบบเย็นทำงานหนักเกินไป นอกจากนี้ควรดูดฝุ่นทำความสะอาดแผงระบายความร้อนและพัดลมเป็นประจำทุกสัปดาห์ เพื่อป้องกันฝุ่นสะสม
- พลังงานยิงไม่สม่ำเสมอ (Output Energy ไม่คงที่) – ปัญหานี้สังเกตได้จากประสิทธิภาพการรักษาที่ไม่สม่ำเสมอ บางช่วงแรงบางช่วงเบา หรือผู้รับบริการรู้สึกถึงความร้อน/ความเย็นแตกต่างกันไปในระหว่างทำ ซึ่งอาจเกิดได้กับเครื่องที่ใช้พลังงานหลายประเภท สาเหตุอาจมาจากการสูญเสียการสอบเทียบหรือ Calibrate ของเครื่อง ทำให้ค่าพลังงานที่ตั้งไว้ไม่ตรงกับที่ปล่อยจริง หรือ หัวปล่อยพลังงานเสื่อมสภาพ จากการใช้งานมายาวนาน อีกสาเหตุหนึ่งที่พบบ่อยคือ ปัจจัยด้านการใช้งานและวัสดุตัวกลาง เช่น การใช้เจลนำคลื่นที่คุณภาพต่ำหรือใช้ผิดประเภท ทำให้การส่งผ่านพลังงานจากหัวเครื่องไปยังผิวคนไข้ไม่ดีพอ หรือเกิดความต้านทานที่ไม่เท่ากันเป็นจุด ๆ ส่งผลให้บางบริเวณพลังงานน้อยลง
- วิธีแก้ไขเบื้องต้น : เริ่มจากตรวจสอบสิ่งง่าย ๆ ก่อน เช่น เจลหรือสื่อกลางนำพลังงาน – ควรใช้เจลนำคลื่นหรือสารหล่อลื่นที่ผู้ผลิตแนะนำและมีคุณภาพดี หลีกเลี่ยงการใช้เจลคุณภาพต่ำเพราะอาจมีความนำไฟฟ้าไม่ดี ทำให้พลังงานส่งผ่านไม่สม่ำเสมอ และยังอาจกัดกร่อนผิวหน้าสัมผัสของหัวเครื่องได้ ขณะทำหัตถการควรทาเจลในปริมาณที่พอเหมาะและทาให้ทั่วหัวเครื่องเพื่อการสัมผัสที่สม่ำเสมอ หากเครื่องมีการตั้งค่า Calibrate หรือรีเซ็ตพลังงานได้ ควรลองปรับ คาลิเบรท ตามคู่มือ หรือรีสตาร์ทเครื่องเพื่อให้ระบบประมวลผลค่าพลังงานใหม่อีกครั้ง
- วิธีแก้ไขเบื้องต้น : เริ่มจากตรวจสอบสิ่งง่าย ๆ ก่อน เช่น เจลหรือสื่อกลางนำพลังงาน – ควรใช้เจลนำคลื่นหรือสารหล่อลื่นที่ผู้ผลิตแนะนำและมีคุณภาพดี หลีกเลี่ยงการใช้เจลคุณภาพต่ำเพราะอาจมีความนำไฟฟ้าไม่ดี ทำให้พลังงานส่งผ่านไม่สม่ำเสมอ และยังอาจกัดกร่อนผิวหน้าสัมผัสของหัวเครื่องได้ ขณะทำหัตถการควรทาเจลในปริมาณที่พอเหมาะและทาให้ทั่วหัวเครื่องเพื่อการสัมผัสที่สม่ำเสมอ หากเครื่องมีการตั้งค่า Calibrate หรือรีเซ็ตพลังงานได้ ควรลองปรับ คาลิเบรท ตามคู่มือ หรือรีสตาร์ทเครื่องเพื่อให้ระบบประมวลผลค่าพลังงานใหม่อีกครั้ง
- เครื่องไม่ทำงานหรือเปิดไม่ติด (No Power/Not Turning On) – เป็นปัญหาพื้นฐานที่สามารถเกิดขึ้นได้กับอุปกรณ์ทุกชนิด เมื่อกดสวิทช์แล้วเครื่องไม่มีไฟเข้า หรือไฟไม่ติดบนหน้าจอใดๆ เลย สาเหตุ อาจไม่ซับซ้อน เช่น ปลั๊กไฟไม่ได้เสียบแน่นหรือแหล่งจ่ายไฟไม่มีไฟ, ฟิวส์ไฟฟ้าภายในเครื่องขาดเนื่องจากกระแสเกิน, หรือสวิทช์เปิด/ปิดเครื่องเสียหาย
- วิธีแก้ไขเบื้องต้น : เริ่มจากตรวจสอบแหล่งจ่ายไฟฟ้าภายนอกก่อนว่า ปลั๊กเสียบอยู่แน่นและมีไฟเข้าหรือไม่ จากนั้นตรวจดู ปุ่มหยุดฉุกเฉิน (ถ้ามี) ว่าอยู่ในสถานะปลดล็อก (ปกติปุ่มหยุดฉุกเฉินจะต้องบิดหรือดึงออกถึงจะปลดล็อกวงจรไฟฟ้า) ตรวจเช็คสวิทช์หลักของเครื่องว่าถูกเปิดอยู่ นอกจากนี้ให้ ตรวจฟิวส์ ที่ช่องเสียบสายไฟของเครื่อง (บางรุ่นมีช่องใส่ฟิวส์สำรอง) ว่าฟิวส์ขาดหรือไหม้หรือไม่ หากฟิวส์ขาดควรเปลี่ยนฟิวส์ขนาดและชนิดเดียวกันตามที่ผู้ผลิตกำหนด และตรวจสอบว่าไม่มีไฟฟ้าลัดวงจรอื่น ๆ ก่อนเปิดเครื่องใหม่
ต้องการทีมช่าง Click!!

แนวทางการดูแลรักษาเครื่องสลายไขมันอย่างมืออาชี
- การตรวจสอบไฟ และการเชื่อมต่อทุกวัน ก่อนเริ่มใช้งานในแต่ละวัน ควรตรวจสอบแหล่งจ่ายไฟ สายไฟ และขั้วต่อของหัวเครื่องทุกเส้นว่าปกติแน่นหนา ไม่มีสายไหนหลุดหรือขั้วต่อหลวม เพราะข้อต่อที่หลวมอาจเกิดความร้อนและช็อตจนเครื่องรวนหรือเสียหายได้
- ทำความสะอาดตัวเครื่องและอุปกรณ์ หลังใช้งานทุกครั้ง ควรเช็ดทำความสะอาดหัวเครื่อง, หน้าจอ และพื้นผิวตัวเครื่องด้วยผ้านุ่มชุบน้ำหมาด (หลีกเลี่ยงผ้าที่เปียกโชก) เพื่อกำจัดเจลหรือสิ่งตกค้าง ห้ามปล่อยให้น้ำยาทำความสะอาดหรือของเหลวใด ๆ ซึมเข้าไปในรอยต่อของเครื่องโดยเด็ดขาด เพราะอาจไหลไปโดนวงจรภายในก่อให้เกิดความเสียหายได้
- ดูแลระบบระบายความร้อนและกรองอากาศ หมั่นทำความสะอาดแผ่นกรองฝุ่นและช่องระบายอากาศของเครื่องอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง ฝุ่นที่สะสมจะถูกดูดเข้าไปในเครื่องและเกาะที่พัดลมกับแผงวงจร ก่อให้เกิดเสียงดังและความร้อนสะสมจนอาจทำให้แผงวงจรเสียหายได้
- บำรุงรักษาระบบน้ำหล่อเย็นตามกำหนด สำหรับเครื่องที่มีระบบหล่อเย็นน้ำ ควร เติมน้ำกลั่นหรือน้ำปราศจากแร่ธาตุ ในถังเก็บน้ำตามระดับที่กำหนดทุกวัน และเปลี่ยนน้ำ/สารหล่อเย็นตามระยะเวลาที่ผู้ผลิตแนะนำ รวมถึง เปลี่ยนไส้กรองน้ำ ทุก 6 เดือนหรือเมื่อครบชั่วโมงการทำงานที่กำหนด เพื่อป้องกันการอุดตัน
- การสอบเทียบและเช็คเครื่องโดยผู้เชี่ยวชาญ ควรจัดให้มี การตรวจสอบและบำรุงรักษาเชิงป้องกัน (Preventive Maintenance) โดยช่างผู้ชำนาญหรือวิศวกรจากผู้ผลิต ทุก ๆ 6-12 เดือน ตามคำแนะนำของผู้ผลิต การตรวจสภาพนี้จะรวมถึงการสอบเทียบค่าพลังงานให้อยู่ในมาตรฐาน การตรวจความเสื่อมของชิ้นส่วนภายใน การทำความสะอาดภายในเครื่องอย่างละเอียด และการทดสอบความปลอดภัยทางไฟฟ้าของเครื่อง
ปัจจัยที่ส่งผลต่ออายุการใช้งานเครื่องสลายไขมัน
- ความถี่และลักษณะการใช้งาน เครื่องที่ถูกใช้งานหนักตลอดวันหรือใช้งานต่อเนื่องโดยไม่หยุดพัก ย่อมสึกหรอเร็วกว่าปกติ ควรปฏิบัติตามคำแนะนำเรื่อง Duty Cycle ของอุปกรณ์ (ช่วงเวลาที่ควรพักเครื่องหลังการใช้งานต่อเนื่องแต่ละครั้ง) เพื่อป้องกันความร้อนสะสมและการสึกหรอเกินควร นอกจากนี้การใช้งานผิดประเภทหรือใช้หัวเครื่องผิดบริเวณ
- การบำรุงรักษาและสอบเทียบสม่ำเสมอ เครื่องมือที่ได้รับการทำความสะอาดและบำรุงรักษาตามรอบจะมีอายุการใช้งานนานขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากปัญหาต่าง ๆ ถูกแก้ไขก่อนจะเกิดความเสียหายรุนแรง การสอบเทียบ (Calibration) ค่าเครื่องมือเป็นประจำก็ช่วยรักษาความแม่นยำและลดภาระการทำงานของระบบไม่ให้เกินกำลัง
- คุณภาพของอุปกรณ์และอะไหล่สิ้นเปลือง การเลือกใช้อะไหล่ และของสิ้นเปลืองที่มีคุณภาพมีผลอย่างมากต่ออายุเครื่อง เช่น เจลนำคลื่นและแผ่นสัมผัสคุณภาพดี จะไม่ก่อการกัดกร่อนหรือสร้างออกไซด์บนหัวเครื่อง ต่างจากเจลคุณภาพต่ำที่อาจสร้างสนิมหรือคราบออกไซด์จนหัวเครื่องชำรุดเร็วขึ้น อีกตัวอย่างคือ น้ำกลั่น DI (Deionized Water) ที่ไม่มีแร่ธาตุจะไม่ทำให้เกิดตะกรันในท่อหรือปั๊ม ต่างจากการใช้น้ำปะปาที่อาจทิ้งคราบสะสมทำให้อุดตันและทำลายปั๊มน้ำ
หากต้องการศึกษาเรื่องน้ำกลี่นเพิ่มเติม สามารถอ่านได้ที่ : น้ำกลั่น DI ต่างจากน้ำกลั่นทั่วไปอย่างไร - สภาพแวดล้อมการติดตั้งและจัดเก็บเครื่อง สิ่งแวดล้อมในสถานที่ติดตั้งเครื่องมีผลต่ออายุการใช้งานอย่างมาก ควรเก็บเครื่องในห้องที่ แห้ง สะอาด และมีอุณหภูมิคงที่ ไม่ร้อนหรือชื้นจนเกินไป อุณหภูมิห้องที่สูงเกินไป อาจทำให้ระบบระบายความร้อนของเครื่องทำงานหนัก และเกิด ความร้อนเกิน (Overheating) จนเครื่องตัดการทำงานบ่อยครั้ง ซึ่งส่งผลเสียต่อวงจรอิเล็กทรอนิกส์ภายใน นอกจากนี้ฝุ่นและสิ่งสกปรกในห้องที่มากเกินไปจะถูกดูดเข้าไปสะสมในเครื่อง ทำให้อุปกรณ์ภายในเสื่อมเร็ว ควรรักษาพื้นที่รอบเครื่องให้สะอาด และไม่วางเครื่องในที่โดนแดดหรือความชื้นโดยตรงเป็นเวลานาน
สรุป
เครื่องสลายไขมันเป็นทรัพย์สินสำคัญของคลินิกความงามที่ต้องการการดูแลเอาใจใส่เหมือนกับอุปกรณ์ทางการแพทย์อื่น ๆ การเข้าใจถึงปัญหาที่อาจเกิดขึ้นบ่อยทั้ง 5 ประการนี้ พร้อมทั้งวิธีแก้ไขเบื้องต้นอย่างมืออาชีพ จะช่วยให้คลินิกสามารถจัดการสถานการณ์เบื้องต้นได้อย่างมั่นใจ ลดความตระหนกและลดระยะเวลาที่เครื่องต้องหยุดใช้งาน ยิ่งไปกว่านั้น การบำรุงรักษาเครื่องอย่างถูกวิธีและสม่ำเสมอตามที่แนะนำ พร้อมทั้งคำนึงถึงปัจจัยต่าง ๆ ที่ส่งผลต่ออายุการใช้งาน จะช่วยป้องกันไม่ให้ปัญหาเกิดขึ้นตั้งแต่แรก และยืดอายุการใช้งานอุปกรณ์ให้ให้บริการท่านได้นานหลายปี หากพบความผิดปกติใด ๆ ที่เกินขอบเขตการแก้ไขเบื้องต้น ควรรีบปรึกษาศูนย์บริการหรือช่างผู้เชี่ยวชาญโดยเร็ว เพื่อดำเนินการแก้ไขอย่างถูกต้องทันท่วงที และรักษามาตรฐานความปลอดภัยรวมถึงประสิทธิผลในการรักษาของเครื่องสลายไขมันให้คงอยู่ต่อไปอย่างต่อเนื่องในระยะยาว
