เครื่องมือแพทย์ความงาม เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน แต่ในขณะเดียวกัน เครื่องมือเหล่านี้ก็ต้องได้รับการดูแลรักษาอย่างสม่ำเสมอ ในบทความนี้ เราจะพาทุกคนมารู้จักประเภทของเครื่องมือแพทย์ความงาม ที่ควรได้เข้ารับการตรวจเช็ก และซ่อมแซมความเสียหาย รวมถึงอาการเบื้องต้นหากไม่ Maintenance
4 ประเภท เครื่องมือแพทย์ความงาม ที่ควรได้รับการตรวจเช็ก และซ่อมบำรุง
1. เครื่องประเภทเลเซอร์
เครื่องประเภทเลเซอร์ เป็นเครื่องที่ใช้พลังงานแสงในการรักษาสภาวะผิวต่างๆ เช่น รอยสิว รอยแผลเป็น รวมถึงริ้วรอยต่างๆ และเครื่องเลเซอร์นั้น จำเป็นต้องได้รับการปรับแต่ง และทำความสะอาดเป็นประจำเพื่อให้แน่ใจว่าลำแสงนั้น จะมีความเสถียร และปลอดภัยมากที่สุด ตัวอย่างของเครื่องเลเซอร์ จะมีดังนี้
- เลเซอร์ CO2 : เป็นเลเซอร์ที่ใช้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เป็นตัวกลาง มีคุณสมบัติพิเศษคือ สามารถดูดซับน้ำในเนื้อเยื่อผิว ทำให้เกิดความร้อนสูงในบริเวณที่ต้องการรักษา ซึ่งจะส่งผลให้เนื้อเยื่อส่วนเกิน หรือเนื้อเยื่อที่ผิดปกติถูกทำลาย โดยไม่ทำลายเนื้อเยื่อปกติรอบข้าง
- เลเซอร์ Nd:YAG : เป็นเลเซอร์ที่ใช้แท่งผลึก Nd:YAG เป็นตัวกลางเลเซอร์ เลเซอร์ Nd:YAG มีประสิทธิภาพที่สูง และสามารถใช้ในการรักษาสภาวะผิวต่างๆ มีคุณสมบัติพิเศษคือ สามารถเจาะทะลุเนื้อเยื่อได้ลึก โดยไม่ดูดซับโดยน้ำในเนื้อเยื่อ ทำให้เหมาะสำหรับการรักษาปัญหาผิวพรรณ และเนื้อเยื่อที่อยู่ลึก
- เลเซอร์ไดโอด : เป็นเลเซอร์ที่ใช้เซมิคอนดักเตอร์เป็นตัวกลางเลเซอร์ เลเซอร์ไดโอดมีขนาดเล็ก และประหยัดพลังงาน มีความยาวคลื่นที่หลากหลาย เช่น 800, 810, 940, 1,064 นาโนเมตร โดยความยาวคลื่นที่นิยมใช้ในการกำจัดขนจะอยู่ในช่วง 800-810 นาโนเมตร
- เลเซอร์พิโค่ : เทคโนโลยีเลเซอร์รุ่นใหม่ล่าสุดที่ใช้คลื่นแสงเลเซอร์พลังงานสูงยิงเป็น Pulse สั้นๆ (Picosecond) ในระดับล้านล้านวินาที ทำให้เกิดคลื่นกระแทก (Shockwave) เข้าไปทำลายเม็ดสีใต้ชั้นผิวหนังโดยไม่ต้องเผาทำลายเนื้อเยื่อรอบข้าง ซึ่งส่งผลให้เม็ดสีแตกตัวเล็กลง และถูกกำจัดออกจากร่างกายตามธรรมชาติ
อาการเสียที่พบได้บ่อยๆ ในเครื่องมือแพทย์ความงามประเภทเลเซอร์ คือ พลังงานไม่เสถียร พลังงานดรอป เครื่องร้อนผิดปกติ สาเหตุเหล่านี้ ทางคลินิกไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยตนเอง ควรปรึกษาและใช้บริการทีมวิศวะ ให้เข้ามาตรวจสอบโดยด่วน
2. เครื่องประเภท RF (Radio Frequency)
เครื่องประเภท RF หรือ Radio Frequency เป็นเครื่องที่ใช้คลื่นวิทยุ เพื่อกระตุ้นการผลิตคอลลาเจน และอีลาสติน เครื่องมือ RF นี้ จำเป็นต้องได้รับการตรวจสอบ สอบเทียบ และวัดค่าพลังงานเป็นประจำเพื่อให้แน่ใจว่าตัวเครื่องนั้น จะส่งพลังงาน RF ได้อย่างถูกต้อง ซึ่งเครื่อง RF จะแบ่งได้ 3 ประเภทใหญ่ๆ ได้แก่
- เครื่องมือ RF แบบ Unipolar : เครื่องมือ RF แบบ Unipolar จะใช้ขั้วไฟฟ้าสองขั้ว ขั้วไฟฟ้าขั้วหนึ่งวางบนผิวหนัง และอีกขั้ววางบนแผ่นรอง คลื่นวิทยุจะไหลผ่านระหว่างขั้วไฟฟ้าทั้งสอง
- เครื่องมือ RF แบบ Bipolar : เครื่องมือ RF แบบ Bipolar จะใช้ขั้วไฟฟ้าสองขั้วที่อยู่ใกล้กัน คลื่นวิทยุจะไหลผ่านระหว่างขั้วไฟฟ้าทั้งสอง
- เครื่องมือ RF แบบ Fractional : เครื่องมือ RF แบบ Fractional ส่งพลังงาน RF ลงสู่ชั้นผิวหนังเป็นจุดๆ เครื่องมือ RF แบบ Fractional สามารถช่วยให้ผิวกระชับโดยไม่ต้องทำลายผิวหนังโดยรอบ
อาการเสียที่พบได้บ่อยๆ ในเครื่องมือแพทย์ความงามประเภท RF คือ ตัวแผ่นรองขั้วไฟฟ้ามีการเสื่อมสภาพ ทำให้การส่งคลื่นไม่สม่ำเสมอ แผ่นขั้วไฟฟ้ามีความร้อนสูงผิดปกติ หัว Handpiece มีความร้อนสะสม
3. เครื่องประเภท IPL (Intense Pulsed Light)
เครื่องประเภท IPL หรือ Intense Pulsed Light ใช้แสงความเข้มข้นสูง ช่วงคลื่นกว้าง (400-1200 นาโนเมตร) ยิงเป็นแฟลชสั้นๆ เพื่อกำจัดขน รักษาสิว รอยแผลเป็น รอยแดง รอยดำ และขน ซึ่งเครื่องมือ IPL จำเป็นต้องได้รับการเปลี่ยนหลอดไฟ และทำความสะอาดเป็นประจำ ซึ่งเครื่อง IPL จะแบ่งได้ 3 ประเภทใหญ่ๆ ได้แก่
- เครื่องมือ IPL แบบ Traditional : ใช้หลอดแฟลช Xenon เป็นแหล่งกำเนิดแสง เครื่องมือ IPL แบบ Traditional เหมาะสำหรับรักษารอยสิว รอยแผลเป็น รอยแดง และรอยดำ
- เครื่องมือ IPL แบบ SHR (Super Hair Removal) : ใช้เทคโนโลยี SHR ซึ่งช่วยให้ยิงแสง IPL หลายๆ ช็อตด้วยพลังงานต่ำ เครื่องมือ IPL แบบ SHR เหมาะสำหรับกำจัดขน
- เครื่องมือ IPL แบบ SR (Skin Rejuvenation) : ใช้เทคโนโลยี SR ซึ่งช่วยให้ยิงแสง IPL หลายๆ ช็อตด้วยพลังงานต่ำ เครื่องมือ IPL แบบ SR เหมาะสำหรับรักษารอยแดง รอยดำ และปรับสีผิว
4. เครื่องประเภท HIFU (High-Intensity Focused Ultrasound)
เครื่องประเภท HIFU หรือ High-Intensity Focused Ultrasound จะใช้คลื่นอัลตราซาวด์ความเข้มข้นสูงเพื่อกระตุ้นการผลิตคอลลาเจน และอีลาสติน ที่เป็นโปรตีนเพื่อยกกระชับใบหน้า และเพิ่มความยืดหยุ่น ตัวเครื่อง HIFU ยังสามารถช่วยลดไขมันใต้ผิวหนังได้อีกด้วย เครื่องมือ HIFU จำเป็นต้องได้รับการตรวจสอบ และปรับเทียบเป็นประจำเพื่อให้แน่ใจว่าส่งคลื่นอัลตราซาวด์ได้อย่างถูกต้อง
อาการเสียที่พบได้บ่อยๆ ในเครื่องมือแพทย์ความงามประเภท HIFU คือคลื่นไม่สม่ำเสมอ หรือขาดหาย ระบบ Line Tracking ทำงานผิดปกติ หัวทรานสดิวเซอร์มีฟองอากาศ รวมถึงระบบ Sensor ตรวจจับผิวทำงานผิดปกติ
ประโยชน์ของการซ่อมบำรุง เครื่องมือแพทย์ความงาม
- ยืดอายุการใช้งานเครื่องมือ : การซ่อมบำรุงจะช่วยป้องกันความเสียหาย และการสึกหรอของเครื่องมือ
- เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน : เครื่องมือที่ได้รับการบำรุงรักษาอย่างดีจะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และแม่นยำ
- เพิ่มความปลอดภัย : เครื่องมือที่ได้รับการบำรุงรักษาอย่างดีจะปลอดภัยต่อผู้ใช้ และผู้ป่วย
- ลดค่าใช้จ่าย : การซ่อมบำรุงช่วยป้องกันการเสียหายร้ายแรง ซึ่งอาจส่งผลให้มีค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมที่สูงขึ้น
- รักษาชื่อเสียงของคลินิก : การใช้เครื่องมือที่ได้รับการบำรุงรักษาอย่างดีจะช่วยให้คลินิกมีชื่อเสียงที่ดีขึ้น
การซ่อมเครื่องมือแพทย์นั้น มีความสำคัญเป็นอย่างมาก หากต้องการทราบถึงความสำคัญของการซ่อมโดยละเอียด สามารถเข้าไปอ่านเพิมเติมได้ที่ >> ทำไมการ ซ่อมเครื่องมือแพทย์ ถึงสำคัญกับธุรกิจเสริมความงาม
คำแนะนำในการซ่อมบำรุงเครื่องมือแพทย์ความงาม
- ปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้ผลิต : ผู้ผลิตเครื่องมือแพทย์ความงามมักมีคู่มือการใช้งานที่แนะนำวิธีการบำรุงรักษาเครื่องมืออย่างละเอียด
- ใช้บริการตรวจเช็ก กับบริษัทซ่อมบำรุง : บริษัทซ่อมบำรุงจะมีช่างเทคนิคที่ผ่านการฝึกอบรมมาอย่างดี และมีอะไหล่แท้
- ตรวจสอบเครื่องมือเป็นประจำ : ตรวจสอบเครื่องมือแพทย์ความงามของคุณอย่างสม่ำเสมอ เพื่อหาสัญญาณของการสึกหรอ หรือความเสียหาย
- ทำความสะอาดเครื่องมือเป็นประจำ : เพื่อยืดอายุการใช้งานให้ยาวนานยิ่งขึ้น
สรุป
การดูแลรักษาเครื่องมือแพทย์ความงามอย่างสม่ำเสมอไม่เพียงแต่ช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่องมือเท่านั้น แต่ยังเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาว ทั้งในแง่ของประสิทธิภาพการรักษา ความปลอดภัยของผู้ใช้และผู้รับบริการ รวมถึงการประหยัดค่าใช้จ่ายจากการซ่อมแซมที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต สิ่งสำคัญคือการเลือกใช้บริการจากผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการรับรอง และปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้ผลิตอย่างเคร่งครัด เพื่อให้เครื่องมือทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดและมีความปลอดภัยตลอดอายุการใช้งาน