ความสำคัญของ การตรวจเช็กเครื่อง Treatment ก่อนใช้งาน
การตรวจสอบอุปกรณ์ก่อนใช้งานเปรียบเสมือนการดูแลเชิงป้องกันที่จะปกป้องการลงทุน การเช็กเครื่องอย่างสม่ำเสมอ ช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่อง และลดโอกาสเกิดปัญหาขัดข้องไม่คาดฝันที่ทำให้บริการหยุดชะงัก นอกจากนี้ยังช่วยให้มั่นใจว่าเครื่อง Treatment จะให้พลังงานได้อย่างแม่นยำ เหมาะสมตามที่ตั้งค่าไว้ ซึ่งส่งผลต่อผลลัพธ์การรักษาและความปลอดภัยของคนไข้โดยตรง
จุดที่ควรตรวจสอบ ก่อนใช้งานเครื่อง Treatment
- ตรวจสอบหัวเครื่องและสายเชื่อมต่อ ตรวจดูหัวยิงหรือ Handpiece ว่าหน้าต่างเลนส์สะอาด ไม่มีรอยแตกร้าวหรือรอยไหม้ รวมถึงลองขยับสายดูว่ามีรอยหัก งอสึกกร่อนหรือไม่ และตรวจสอบขั้วต่อสายทุกจุดว่าแน่นดีไม่มีฝุ่นเกาะ
(ข้อควรระวัง : อย่าม้วนหรือตึงสายเคเบิลของ Handpiece มากเกินไป เพราะอาจทำให้สายภายในขาดเสียหายได้) - เปิดเครื่องและฟังเสียงการทำงาน เมื่อเปิดเครื่อง ให้สังเกตเสียงและการทำงานเบื้องต้น เครื่องที่ปกติจะ บูทขึ้นอย่างราบรื่น ไม่มีเสียงดังผิดปกติ เช่น ไม่มีเสียงมอเตอร์บดหรือเสียงแหลมสูงผิดสังเกต หากพัดลมระบายความร้อนมีเสียงอืดผิดปกติหรือหน้าจอกระพริบ อาจเป็นสัญญาณของความเสื่อมภายในตัวเครื่องหรือปัญหาทางไฟฟ้า ควรบันทึกอาการเหล่านี้ไว้และติดต่อวิศวกรตรวจสอบถ้าเกิดขึ้นบ่อย
- ตรวจสอบระบบความเย็นและอุณหภูมิ ตรวจเช็กระบบระบายความร้อนของเครื่องทำงานปกติ หรือไม่ เช่น หากเครื่องใช้ระบบน้ำหล่อเย็น ให้ตรวจระดับน้ำว่าอยู่ในเกณฑ์ที่กำหนดและน้ำใสสะอาด ไม่มีสีขุ่นหรือระดับต่ำเกินไป กรณีเป็นระบบพัดลม ให้แน่ใจว่าพัดลมทำงานเมื่อเปิดเครื่องและไม่มีสิ่งอุดตันรูระบายอากาศ หากเครื่องมีแนวโน้มร้อนเร็วหรือขึ้นแจ้งเตือนความร้อน ควรหยุดใช้งานทันทีเพื่อตรวจสอบสาเหตุ เพราะความร้อนเกินอาจทำให้เครื่องเสียหายรุนแรงได้
- ทำความสะอาดส่วนที่สัมผัสหลังใช้งาน หลังการตรวจเช็กเบื้องต้น ควรเช็ดทำความสะอาดอุปกรณ์ทันที โดยเฉพาะส่วนหัวเครื่อง (เลนส์/หน้าต่างยิง) ด้วยผ้านุ่มหรือกระดาษเช็ดชนิดที่ผู้ผลิตแนะนำ และใช้น้ำยาทำความสะอาดที่ไม่ผสมแอลกอฮอล์เช็ดตัวเครื่องบริเวณหน้าจอ ปุ่มกด รวมถึงแป้นเหยียบอย่างระมัดระวัง (อย่าฉีดน้ำยาลงบนเครื่องโดยตรง เพื่อป้องกันของเหลวไหลเข้าไปภายใน) การรักษาความสะอาดทุกครั้งหลังใช้จะช่วยป้องกันไม่ให้มีคราบเจล ฝุ่น หรือสิ่งสกปรกสะสม ซึ่งอาจก่อให้เกิดปัญหาทางเทคนิคตามมาได้
ปัญหาที่พบบ่อยในเครื่อง Treatment
- ระบบหล่อเย็นและความร้อน เครื่องที่มีระบบระบายความร้อนด้วยน้ำหรือพัดลม เมื่อใช้งานไปนาน ๆ อาจเกิดการรั่วซึมหรือท่อตัน ปั๊มน้ำเริ่มเสื่อมประสิทธิภาพ ส่งผลให้เครื่องระบายความร้อนได้ไม่เต็มที่ เกิดความร้อนสะสมจนเครื่อง ร้อนเกินและต้องหยุดทำงานกลางคัน บ่อยครั้ง ปัญหานี้พบมากในเครื่องเลเซอร์รุ่นเก่าที่ระบบหล่อเย็นเสื่อมสภาพ หากปล่อยไว้จะสร้างความเสียหายให้ชิ้นส่วนภายในเครื่องได้
- ความสึกหรอของหัวเครื่อง (Handpiece) หัวเครื่องหรือ Handpiece นับเป็นชิ้นส่วนที่ถูกใช้งานหนักและสึกหรอง่ายที่สุด เลนส์และหน้าต่างที่หัวเครื่องอาจเกิดคราบหรือความขุ่นมัว จากการยิงซ้ำ ๆ เป็นเวลานาน สายใยนำแสง (Fiber Optics) ภายในก็เสื่อมคุณภาพลงทีละน้อย รวมถึงซีลยางต่าง ๆ ที่แห้งกรอบตามอายุการใช้งาน ปัญหาเหล่านี้ทำให้พลังงานที่ส่งผ่านหัวเครื่องถูกลดทอนลงหรือกระจายผิดรูป ส่งผลให้ผลการรักษาไม่ดีเท่าที่ควร และหากไม่เปลี่ยนอะไหล่ที่สึกหรอก็อาจทำให้เครื่องเกิดความเสียหายเพิ่มเติมได้
- ปัญหาทางไฟฟ้าและแหล่งจ่ายไฟ เครื่อง Treatment ที่ใช้งานหนัก ต่อเนื่องตลอดวัน อาจเริ่มมีอาการเสื่อมของระบบไฟฟ้าภายใน เช่น ใช้เวลาบูทเครื่องนานขึ้น กว่าปกติ, อยู่ ๆ เครื่อง รีสตาร์ทหรือดับเองแบบสุ่ม ระหว่างใช้งาน, ไปจนถึงเครื่องไม่ตอบสนองหรือเปิดไม่ติดเลยในบางครั้ง สาเหตุอาจมาจากชุดจ่ายไฟ (Power Supply) หรือแผงวงจรที่เสื่อมสภาพ การเกิดไฟกระชาก หรือความร้อนสะสมในระบบไฟฟ้า การแก้ไขจำเป็นต้องให้ช่างผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบภายใน และซ่อมแซมเปลี่ยนอุปกรณ์ที่เสื่อม


- รูปที่ 1 หัวทรีตเมนต์ที่ไม่สะอาด หากปล่อยทิ้งไว้จะทำให้การส่งพลังงานไม่สม่ำเสมอ เสี่ยงต่อการช็อต ไหม้ หรือหยุดทำงานกลางคัน
- รูปที่ 2 สายไฟในเครื่องทรีตเมนต์ชำรุดขาดจากการใช้งานผิดวิธี
ต้องการทีมช่าง Click!!

ทำอย่างไรหากเครื่อง Treatment พัง
- หยุดใช้งานทันที – หากพบว่าเครื่องมีเสียงผิดปกติ อุณหภูมิสูงเกินไปเกิน หรือหน้าจอแสดง Error ควรหยุดใช้ทันทีเพื่อป้องกันอันตรายทั้งต่อเครื่องและผู้ป่วย
- ติดต่อผู้เชี่ยวชาญ – การซ่อมเครื่อง Treatment ควรดำเนินการโดยวิศวกรหรือผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องมือแพทย์ ไม่ควรพยายามแกะหรือซ่อมเอง เพราะอาจทำให้ปัญหาหนักขึ้น
- ตรวจสอบสัญญาการรับประกัน – หลายเครื่องมีการรับประกันหรือสัญญาบริการ (Service Contract) ที่ครอบคลุมการซ่อมบำรุง หากยังอยู่ในระยะ ควรใช้สิทธิ์ทันที
เคล็ดลับยืดอายุการใช้งานเครื่อง Treatment
- จัดสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม ห้องที่วางเครื่องควรมีอุณหภูมิคงที่ มีการระบายอากาศ และปราศจากฝุ่นสะสม
- อบรมบุคลากรเป็นประจำ ให้ความรู้กับทีมงานเกี่ยวกับการใช้งานอย่างถูกต้อง และวิธีระวังปัญหาที่พบบ่อยในเครื่อง Treatment
- ใช้วัสดุสิ้นเปลืองที่แนะนำจากผู้ผลิต เช่น น้ำกลั่นสำหรับระบบหล่อเย็น หรืออุปกรณ์เสริมที่ได้รับการรับรอง เพื่อป้องกันความเสียหายจากของที่ไม่ได้มาตรฐาน
- นัดหมายการตรวจเช็กประจำปี ให้ผู้เชี่ยวชาญเข้ามาตรวจสอบอย่างละเอียด เช่น การสอบเทียบค่าพลังงาน หรือการเปลี่ยนชิ้นส่วนที่เสื่อม
สรุป
การมีวินัยของ การตรวจเช็กเครื่อง Treatment จะช่วยลดความเสี่ยงจากความผิดพลาดของเครื่องมือระหว่างการรักษาคนไข้ได้อย่างมาก ทั้งยังช่วยค้นพบสัญญาณปัญหาแต่เนิ่น ๆ และแก้ไขได้ก่อนที่จะลุกลาม กลายเป็นความเสียหายใหญ่ที่ค่าใช้จ่ายสูงตามมา การตรวจเช็กประจำวันดังกล่าวใช้เวลาเพียงไม่นานแต่สามารถยืดอายุการใช้งานเครื่องไปได้อีกหลายปี และลดค่าใช้จ่ายการซ่อมบำรุงในระยะยาวอย่างเห็นได้ชัด นอกจากนั้นอย่าลืมว่านอกเหนือจากการดูแลประจำวัน ผู้ผลิตเครื่องเลเซอร์ความงามหลายรายยังแนะนำให้มีการตรวจเช็กและบำรุงรักษาโดยช่างผู้ชำนาญ ทุก ๆ 6 เดือน เพื่อความปลอดภัย และประสิทธิภาพสูงสุดของเครื่องมือ เมื่อเครื่องมือแพทย์ความงามอยู่ในสภาพดี คุณหมอและคลินิกก็สามารถมอบบริการที่ปลอดภัย และมีคุณภาพแก่คนไข้ได้เต็มที่ โดยไม่ต้องกังวลกับปัญหาเครื่องเสียที่ไม่คาดคิด
