การซ่อมบำรุง หรือ Maintenance เป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การตรวจเช็ค อาการเครื่องมือแพทย์ความงาม ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งการซ่อมบำรุง ควรจะให้ทีมวิศวะกรเข้ามาตรวจสอบอย่างน้อย 3 – 6 เดือนต่อครั้ง เพื่อตรวจเช็ก หาจุดบกพร่องในการใช้งาน รวมถึงการหาความผิดพลาดของระบบภายในเครื่อง ทั้งระบบการไหลของน้ำ และฟังก์ชั่นการทำงานต่างๆ เพราะเหตุนี้ การขาดการซ่อมบำรุง จะส่งผลเสียให้กับเครื่องมือแพทย์ความงามเป็นอย่างมาก แล้วอาการของเครื่องจะมีอะไรบ้าง มาหาคำตอบจากบทความนี้กัน
อันตราย หากละเลยการตรวจเช็กเครื่องมือแพทย์ความงาม
1. ปีที่หนึ่ง: ชิ้นส่วนเริ่มสึกหรอ ประสิทธิภาพลดลง
ชิ้นส่วนภายในเครื่องมือแพทย์ความงาม เริ่มสึกหรอ และประสิทธิภาพการทำงานลดลงเล็กน้อย โดยอาการที่จะสังเกตได้คือ หากการใช้งานเครื่อง ต้องใช้ปริมาณพลังงานมากกว่าปกติ แสดงว่าเครื่องเริ่มเสื่อมสภาพ หรือในกรณีของเครื่องเลเซอร์ หากเรายิงพลังงานเท่าเดิม แต่รู้สึกเจ็บน้อยลง นั่นก็คือสัญญานการเสื่อมประสิทธิภาพเช่นกัน
2. ปีที่สอง: เครื่องทำงานผิดปกติ หรือหยุดทำงาน
เครื่องมือแพทย์ความงามอาจทำงานผิดปกติมากขึ้น หรือมีการหยุดการทำงานกะทันหัน สาเหตุเกิดจากวงจรภายในเครื่อง เริ่มมีการลัดวงจร หรือสายไฟภายในเครื่องมีการฉีกขาด ชำรุด สังเกตง่ายๆ คือ หากระหว่างการใช้งาน ตัวเครื่องมีอาการค้าง หรือหน้าจอแสดงผลกระพริบ ติดๆ ดับๆ ก็เป็นสัญญานว่าเครื่องของคุณนั้นควรได้รับการตรวจเช็กได้แล้ว
3. ปีที่สาม: ชิ้นส่วนเริ่มเสื่อมสภาพ การรักษาไม่แม่นยำ
เครื่องมือแพทย์ความงามมีการเสื่อมสภาพมากยิ่งขึ้น ชิ้นส่วนมีการผุกร่อน ผุพัง การทำงานของเครื่องมือไม่เสถียรภาพ ในระยะนี้ ตัวเครื่องอาจส่งกระกระทบต่อคนไข้ได้ ทั้งในเรื่องของการรักษาที่ไม่แม่นยำ และอันตรายจากเครื่องที่ไม่เสถียร เช่น อาการช็อตจากกระแสไฟฟ้ารั่วไหล เป็นต้น ถ้าหากเครื่องมือแพทย์ความงามของคุณ เริ่มมีอาการดังกล่าว ทาง INNOSERVICE CENTER แนะนำให้พักการใช้งานเครื่อง จนกว่าตัวเครื่องจะได้รับการตรวจสอบจากทีมวิศวะผู้เชี่ยวชาญ
4. ปีที่สี่: ฟังก์ชันการทำงานล้มเหลว
ในระยะนี้ ร้อยละ 60 ของเครื่องมือแพทย์ความงาม ฟังก์ชันการทำงานบางอย่างอาจล้มเหลว หรืออาจใช้งานบางฟังก์ชันไม่ได้ ซึ่งตัวระบบฟังก์ชัน เป็นอีกหนึ่งระบบ ที่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะการรักษาคนไข้ในแต่ละเคส ต้องใช้การตั้งค่าที่แตกต่าง ซึ่งรวมถึงฟังก์ชันการใช้งานที่ต่างกันด้วย หากระบบฟังก์ชันใช้งานไม่ได้ ก็เท่ากับว่าไม่สามารถรักษาคนไข้ได้เลย
5. ปีที่ห้า: เสี่ยงต่อการชำรุดรุนแรง อันตรายต่อผู้ใช้และผู้รับบริการ
ในระยะ 5 ปี หากเครื่องมือแพทย์ความงามไม่ได้รับการตรวจเช็ก หรือทำการ PM เลย ตัวเครื่องจะมีโอกาส ที่จะเกิดการชำรุดอย่างรุนแรง ส่งผลให้มีความเสี่ยงสูงต่อการใช้งาน หรือในกรณีที่ร้ายแรงที่สุด คืออาจเกิดอันตรายต่อผู้เข้ารับบริการได้ ทาง INNOSERVICE CENTER ไม่แนะนำให้คุณหมอ หรือเจ้าของคลินิก ใช้งานเครื่องมือแพทย์ความงามที่ไม่ได้รับการตรวจเช็กมานานกว่า 5 ปี เพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน ทั้งกับผู้ใช้งาน และผู้รับบริการ
ระยะเวลาที่เหมาะสม สำหรับการตรวจเช็ก อาการเครื่องมือแพทย์ความงาม
รอบซ่อมบำรุง ระยะ 3 เดือน เหมาะสำหรับ
- เครื่องมือที่ใช้พลังงานความร้อนสูง เช่น เครื่องเลเซอร์ IPL คลื่นวิทยุ: ควรตรวจเช็กทุกๆ 3 เดือน เพื่อวัดค่าพลังงาน และวัดประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องมือ เพื่อมั่นใจว่าตัวเครื่องนั้น ส่งพลังงานได้อย่างถูกต้อง และปลอดภัย เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นระหว่างใช้งาน
- เครื่องมือประเภทเข็ม เช่น เครื่อง Meso Gun เป็นต้น: ควรตรวจเช็กทุกๆ 3 เดือน เพื่อตรวจสอบความคม ความสะอาด และความปลอดภัยของตัวเข็ม เพื่อ ป้องกันการติดเชื้อ และการบาดเจ็บ
รอบซ่อมบำรุง ระยะ 6 เดือน เหมาะสำหรับ
- เครื่องมือที่ใช้พลังงานความร้อนปานกลาง เช่น RF Cavitation เป็นต้น: ควรตรวจเช็กทุกๆ 6 เดือน เพื่อวัดค่าพลังงาน และวัดประสิทธิภาพการทำงานของเครื่อง เพื่อให้มั่นใจว่าตัวเครื่องนั้น ส่งพลังงานได้อย่างถูกต้อง ปลอดภัย และป้องกันการเกิดอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นระหว่างใช้งาน
- เครื่องมือที่ใช้ระบบทำความเย็น เช่น เครื่องประเภท Cooling เป็นต้น: ควรตรวจเช็กทุกๆ 6 เดือน สำหรับการเช็กน้ำกลั่น และตรวจสอบประสิทธิภาพการทำงานของระบบทำความเย็น เพื่อให้มั่นใจว่า ตัวเครื่องยังคงทำงานได้อย่างถูกต้อง และมีประสิทธิภาพ ไม่มีการรั่วไหลของน้ำภายในระบบ
รอบซ่อมบำรุง ระยะ 12 เดือน
เหมาะสำหรับเครื่องมือแพทย์ความงาม ที่ไม่ได้มีการใช้งานที่บ่อยมากนัก หรือเป็นเครื่องมือที่ไม่ได้รับการตรวจเช็กมาสักระยะหนึ่งแล้ว สำหรับเครื่องประเภทนี้ ควรทำการตรวจสอบการทำงานอย่างน้อยปีละครั้ง เพื่อตรวจสอบสภาพโดยรวมของเครื่องมือแพทย์ความงาม รวมถึงป้องกันการเสื่อมสภาพที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตอีกด้วย
นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่ควรพิจารณา เช่น
- จำนวนผู้เข้ารับบริการ: สำหรับคลินิกที่มีผู้เข้ารับบริการจำนวนมาก ควรได้รับการตรวจเช็กเครื่องมือแพทย์ความงาม บ่อยกว่าคลินิกที่มีผู้เข้ารับบริการจำนวนน้อยกว่า
- สภาพแวดล้อม: คลินิกที่ตั้งอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีฝุ่นละออง หรือความชื้นสูง ควรตรวจเช็กเครื่องมือแพทย์ความงาม บ่อยกว่าคลินิกที่ตั้งอยู่ในสภาพแวดล้อมที่สะอาด และอากาศถ่ายเท
- ประวัติการซ่อมแซม: เครื่องมือที่มีประวัติการซ่อมแซมอยู่บ่อยครั้ง ควรตรวจเช็กอยู่เป็นประจำ เพื่อตรวจสอบว่าตัวเครื่องชนิดนั้น ยังคงทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่ หากยังมีปัญหาเดิมซ้ำๆ ควรพิจารณาว่าจะซ่อมอีกครั้ง หรือเปลี่ยนอะไหล่ใหม่ อะไรจะคุ้มค่า และประหยัดมากกว่ากัน
InnoSevice Center รับประกันงานซ่อมสูงสุด 90 วัน
InnoService Center บริการซ่อม และตรวจเช็กเครื่องมือแพทย์ความงามทุกชนิด เรามีบริการให้คำปรึกษาอาการเครื่อง ฟรี! ตลอด 24 ชั่วโมง เราพร้อมดูแลเครื่องมือแพทย์ความงามของคุณ ตั้งแต่ขั้นตอนแรก จนถึงบริการหลังงานซ่อม เราติดตามวัดผลงานซ่อมจนกว่าลูกค้าจะมั่นใจว่าเครื่องมือแพทย์ชิ้นนั้น จะไม่มีปัญหาในภายหลัง และที่สำคัญไปกว่านั้น เรายังรับประกันงานซ่อมสูงสุด 90 วัน (เงื่อนไขการรับประกัน จะเป็นไปตามที่ทางบริษัทกำหนด) เพื่อให้คุณมั่นใจว่า การรับบริการงานซ่อมจาก InnoService Center จากเป็นไปตามมาตรฐานสากล หากมีปัญหาหลังงานซ่อม ทางเรายินดีเข้าไปตรวจสอบ และแก้ไขให้ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย เพื่อความมั่นใจ และความสบายใจในการใช้บริการจากพวกเรา
สรุป
เครื่องมือแพทย์ความงามทุกชนิด จะมีอายุการใช้งานที่แตกต่างกัน ซึ่งขึ้นอยู่กับระบบการทำงาน และความถี่ในการใช้งาน แต่ทุกเครื่องมือแพทย์ความงาม ควรได้รับการตรวจเช็กอยู่เป็นประจำ เพื่อให้ศักยภาพการทำงานยังคงมีประสิทธิภาพ และป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการใช้งาน ทาง InnService Center อยากแนะนำให้ทางคุณหมอ และเจ้าของคลินิก ใช้บริการทีมวิศวะ ผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องมือแพทย์ความงามโดยเฉพาะ เข้ามาตรวจ อาการเครื่องมือแพทย์ความงาม อย่างน้อย 6 เดือน ต่อครั้ง เพื่อรักษาประสิทธิภาพการทำงานของเครื่อง ให้คงมาตรฐานอยู่เสมอ